10 เมืองท่องเที่ยวสุดคลาสสิคของยุโรป

10 เมืองท่องเที่ยวสุดคลาสสิคของยุโรป



เที่ยวยุโรป 10 เมืองสุดคลาสสิค ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากไปเที่ยวยุโรป แต่ไม่รู้ว่าต้องไปที่ไหนถึงจะคุ้มค่าและเวลาที่สุด เรามี 10 เมืองสุดสวยของยุโรปที่คุณควรรู้ไว้ก่อนการตัดสินใจจะไปเที่ยวยุโรป ไม่ว่าจะกับบริษัททัวร์หรือไปด้วยตัวเองก็ตาม


10.
กรุงปราก (Prague) – สาธารณรัฐเชค (Czech Republic)

หลายๆคนกล่าวว่าหากคุณมีโอกาสไปเที่ยวได้แค่เมืองเดียวในยุโรป กรุง Prague เป็นเมืองที่ควรค่าแก่โอกาสของคุณมากที่สุด มีเพลงของชาวตะวันตกมากมายที่กล่าวถึงความสวยงามของเมืองแห่งนี้ ถ้าให้เปรียบคงเปรียบได้กับโลกกาตูนย์ของดิสนีย์ ที่คุณมักจะได้เห็น ปราสาทใหญ่โต, สิ่งก่อสร้าง ตระการตา, เกวียนม้าลาก, ถนนที่ก่อด้วยอิฐมาเรียงกัน, ห่านแหวกว่ายไปตามลำคลอง เชื่อไหมครับทั้งหมดนี้หาได้ที่กรุงปรากเมืองหลวงของสาธารณรัฐเชค

9.เมืองคราคูฟ (Krakow)– โปแลนด์ (Poland)

เมืองอันเก่าแก่ของโปแลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่น่าทึ่งคือศูนย์ประวัติศาสตร์คราคอฟ ที่ถูกยกให้เป็นมรดกโลกด้วย เป็นที่ตั้งของตลาดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ประกอบไปด้วยบ้านเรือน พระราชวังและโบสถ์อันงดงาม รวมถึงปราสาท Wawel และหินคริสตจักร Adalbert เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ซึมซับเรื่องราวแบบอารมณ์มาเต็มเกี่ยวกับการยึดครองของนาซี

8.บรูจส์ (Brugge) – เบลเยียม (Belgium)

เป็นเมืองที่บรรยากาศดีมาก ตึกราบ้านช่องยังดูเก่าและคงความสวยงามสไตล์คลาสสิกได้ดีมากๆ ที่สำคัญสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของเมืองนี้ อยู่ใกล้กันมาก ซึ่งคุณสามารถไปเยี่ยมชมทุกสถานที่ได้ด้วยการเดินเท่านั้น แถมอากาศที่นี่ยังดีมากๆ แดดไม่ส่องมากเนื่องจากตึกส่วนมากติดกันคอยเป็นที่บังแดดให้

7.เมืองเซียน่า (Siena) – อิตาลี (Italy)

เมืองเซียน่า นาถูกขนานนามว่าเป็นเมืองที่ไร้กาลเวลา เพราะแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ เมืองแห่งนี้ยังคงความคลาสสิกแบบอิตาลีสมัยก่อน ความเป็นอยู่แบบเรียบง่าย ผู้คนมีความเป็นกันเอง นักท่องเที่ยวรายนึงกล่าวว่า “ฉันมาที่นี่ 18 ครั้งแล้ว แม้ว่าสถานที่ยังสวยงามเช่นเดิมทุกครั้ง แต่ฉันได้ประสบการณ์ใหม่ๆและพบอาหารอร่อยกว่าที่เคยทุกครั้งที่มาที่นี่” บางคนกล่าวว่า ซีเอนาเป็นเมืองที่สวยงามและเงียบสงบกว่า โรม และ ฟลอเรนซ์ เสียอีก

6.กรุงโรม (Rome) – ประเทศอิตาลี (Italy)

 

กรุงโรมเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คุณจะสามารถไปใช้เวลาอยู่ได้เป็นเดือนๆ โดยไม่เบื่อเลย เพราะที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆนับไม่ถ้วน ผู้คนเป็นกันเองตามสไตล์อิตาลี อาหารการกิน บริการต่างๆ ก็มีครบครันมากกว่าเมืองท่องเที่ยวไหนๆของโลกเลยก็ว่าได้ ที่สำคัญสถาปัตยกรรมที่นี่สวยงามจนคุณจะลืมไม่ลงเลยทีเดียว

5. กรุงเวียนนา (Vienna) – ออสเตรีย (Austria) 

กรุงเวียนนาเต็มไปด้วยกลิ่นอายของ ดนตรี, ประวัติศาสตร์ และ ศิลปะ ซึ่งทำให้เมืองหลวงของประเทศออสเตรียแห่งนี้เป็นเมืองที่น่ามาเที่ยวที่สุดหากคุณเป็นคนที่หลงไหลในวัฒนธรรมตะวันตก ตามท้องถนนของเมืองนี้มักจะมีวณิพกบรรเลงดนตรีคลาสสิกให้ฟัง ยิ่งทำให้บรรยากาศของเมืองนี้มีเสน่ความเป็นยุโรปคลาสสิกมากขึ้นไปอีก

4. ซาน เซบาสเตียน (San Sebastien) – สเปน (Spain)

ถ้าหากจะมีเมืองไหนซักเมืองได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีอาหารอร่อยที่สุดของทวีปยุโรป ซาน เซบาสเตียน ประเทศสเปนเหมาะที่จะได้รับตำแหน่งนั้นเป็นที่สุด ไม่ว่าจะไปที่ไหนคุณจะได้ยินคนรอบๆพูดว่า eat eat eat อยู่ตลอด เพราะเมืองนี้เต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อย ตกแต่งสวย ราคาไม่แพง มากมายตลอดทั้งเมือง นอกจากนั้นยังมีชายหาดสวยๆให้ไปนั่งชิว หรือ เดินเล่น ได้อีกด้วย

3. ซาลซ์บูร์ก (Salzburg) – ออสเตรีย (Austria)

Salzburg เป็นเมืองเล็กๆของออสเตรียซึ่งยังมีความยุโรปอยู่มาก แทบไม่มีสิ่งก่อสร้างใหม่ๆหรือตึกสูงขึ้นเลยแม้แต่ที่เดียว เมืองนี้เป็นเมืองบ้านเกิดของ โมซาร์ท นักดนตรีชื่อก้องโลก (รวมทั้งนักดนตรีคลาสสิกที่มีชื่อเสียงในอดีตอีกหลายคน) ที่นี่เป็นที่ที่เฟอร์เฟคสุดๆหากคุณหลงรักประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

 2.บูดาเปสต์ – ประเทศฮังการี

ทุกๆอย่างของบูดาเปสต์ดูจะสวยงามไปหมด ตึกราบ้านช่องรวมทั้งที่อยู่อาศัยของผู้คนทั่วไปดูสวยงามตระการตาสุดๆ (จากภายนอก) อาหารของเมืองนี้ก็เรียกได้ว่าอร่อยมาก สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆอัดแน่นรวมกันทำให้เดินหาได้ไม่ยากเลย

 

1. ฟลอเรนซ์ (Frorence) – อิตาลี (Italy)

ฟลอเรนซ์ อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน เป็นเมืองร่ำรวยศิลปะ ทั้งยังเป็นบ้านของศิลปินเทพหลายๆ ท่าน ทั้งไมเคิลเองเจลโล, ลีโอนาโดดาวินชี่ และเป็นเมืองต้นกำเนิดของศิลปะเรเนอซอง ไม่แปลกเลยที่เมืองฟลอเรนซ์จะเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก!

 

 

Visitors: 203,677